วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

2 VS Swift ศึกร้อนแรงในมอเตอร์เอ็กซ์โป

ในตอนแรกเริ่มเดิมทีแล้ว กะว่าจะทำบทความเปรียบเทียบ Ford Escape
ออกมาก่อนบทความนี้ แต่กระแสที่การเปิดตัวของรถเล็กสองรุ่นนี้ ก็แรง
อยู่ไม่น้อย แทบจะเป็น2ดาวเด่นของงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเลยก็ว่าได้
ดังนั้น ก็เลยดันบทความนี้มาซะก่อนเลย
.
แน่นอนว่าคู่นั้นคือ Mazda2 และ Suzuki swift ถึงแม้ว่ากระแสของswift
จะแรงสู้2 ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าsuzuki ประสบความสำเร็จมากทีเดียว กับการ
เปิดตัวโฉมใหม่ พร้อมกับตัวแทนจำหน่ายรายใหม่
.
สำหรับน้อง2นั้น ได้มีการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ โดยใช้ดารานักแสดง
เช่นเดียวกับที่สมัยJazzทำ เพื่อหวังว่าจะดึงยอดขาย ซึ่งก็ไปได้สวย ไม่รู้
เป็นเพราะพรีเซนเตอร์หรือว่าอย่างอื่น คิดดูขนาดยังไม่มีขายในไทยก็มี
Mazda2clubกันแล้วอ่ะ แร้งงงง จังน้อง
.
Face To Face

ทั้งคู่เป็นรุ่นminorchangeของต่างประเทศ แต่เพิ่งจะมาเปิดตัวในไทย


ทั้งคู่ออกแบบมาบนคนละแนวความคิด เหลี่ยมๆกับพริ้วไหว ก็แล้วแต่คน
จะชอบ แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน


สำหรับเครื่องยนต์ของทั้งคู่นั้น มิได้บ้าพลังอย่างเจ้าตลาดในปัจจุบัน โดยที่
ทั้งคู่ใช้เครื่องยนต์ขนาด1,500cc ดังต่อไปนี้
Mazda 2
4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,498 ซีซี พร้อมระบบแปรผันวาล์ว S-VT
กำลังสูงสุด 103 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 13.75 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที
Swift
4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,500 ซีซี พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VVT
กำลังสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 14.57 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที
.
จากตัวเลขแล้วพบว่าพละกำลังทั้งคู่สูสีกันมาก ทางมาสด้าจะได้ทาง
แรงม้าเหนือกว่าหน่อย ส่วนทางซูซูกิจะเหนือกว่าทางด้านแรงบิด ดูจาก
ตัวเลขเครื่องยนต์แล้ว คิดว่าถ้าระบบเกียร์ประสิทธิภาพเท่าๆกัน คงจะ
ไม่ทิ้งกันมากเท่าไหร่นัก
แต่ถึงอย่างไร การจะไปต่อกรกับเจ้าตลาด ยังถือว่าเป็นงานหนักเอาการ
เลยทีเดียว
.


ภายในที่เน้นการใช้งานอุปกรณ์สำหรับswift ส่วนมาสด้าจะเน้นดีไซน์ด้วย
ไม่ค่อยแน่ใจว่าช่องแอร์ของ2 จะส่งไปถึงคนนั่งหลังได้ซักแค่ไหน เพราะ
อยู่ในมุมที่ราวกับกว่าจะให้คนนั่งหน้าสบายอย่างเดียว แต่ถ้าแอร์พุ่งแรงก็
แล้วไป ส่วนswiftคงไม่ต้องกังวล(ถ้าแอร์ไม่เบาเกินไปนะ)ส่งถึงหลังแน่นอน
พวงมาลัยสามก้าน เกียร์อัตโนมัติวางคนจะตำแหน่ง แต่อย่างว่าแหละ
เข้าเกียร์แล้วก็วิ่งกันยาว ไม่ต้องทำอะไรอีก จะวางตรงไหนก็เหมือนกัน

สรุป
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ารถในระดับนี้ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่นัก ทางด้าน
กำลังและความประหยัดน้ำมัน ความชอบจะขึ้นกับสไตล์ของผู้ซื้อเองมากกว่า
นอกจากนี้แล้วเรื่องราคา+คุณภาพก็เป็นสิ่งที่ควรนำมาตัดสินใจด้วยเช่นกัน แต่
ควรจะทำความเข้าใจว่าเราซื้อรถทั้งคัน ไม่ได้ซื้อแค่ออปชั่น ดังนั้นอย่าเอา
มาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ


สุดท้ายคือต้องลองเองถึงจะรู้ อย่าได้เชื่อใคร

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แก้ไขข้อผิดพลาด เรื่องรหัสตัวถังของBMW

จากหลายบทความที่ผ่านมา พบว่า บางบทความได้มีการให้ข้อมูลรหัสตัวถังของ
BMW ผิดพลาด เนื่องจากข้อมูลที่ผมได้รับมานั้นมีความคลาดเคลื่อน และ
เนื่องจากตัวผมไม่ได้ทำการตรวจเช็คข้อมูลอย่างละเอียดก่อนจะเขียนบทความ
ดังนั้นจึง ขออภัยผู้ที่ติดตามทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย
และ ขอแจ้งรหัสตัวถังที่ถูกต้องดังต่อไปนี้
.
BMW 5er F07 คือ ซีรี่ย์ห้าใหม่ ตัวGT gran turismo
BMW 5er F10 คือ ซีรี่ย์ห้าใหม่ ตัว Sedan สี่ประตู
BMW 5er F11 คือ ซีรี่ย์ห้าใหม่ ตัว Touring
.
BMW 7er F01 คือ ซีรี่ย์เจ็ดใหม่ ตัวธรรมดา
BMW 7er F02 คือ ซีรี่ย์เจ็ดใหม่ ช่วงยาว(long wheel base)
.
บทความใดเขียนไปผิดพลาด ขอแก้ไขให้เป็นไปตามนี้ทั้งหมด
(ผมจะไม่ไปแก้ในบทความหรอก ปล่อยให้มันเป็นตราบบาปไว้งั้นแหละ)
.
ข้อมูลนี้คิดว่าน่าเชื่อถือได้มากที่สุด (เป็นภาษาเยอรมันเลยอ่ะ)
.
ตอนที่เขียนบทความอ่ะ ผมมั่นใจสุดๆ แต่พอมาอ่านบทความของเวปหนึ่ง
และหนังสือเล่มหนึ่งได้ให้ข้อมูลรหัสตัวถังไว้ต่างจากผม ก็เลยเกิดอาการ งง
ผมจึงได้ตรวจสอบ ค้นหารหัสที่ถูกต้องเพื่อมาแจ้งให้ทราบ
(แล้วก็พบว่าหนังสือเล่มนั้น ก็แจ้งพลาดเช่นกัน)
.
แล้วก็ไม่นานนี้เอง เข้าเวปOne2Car ก็เจอกับเจ้านี่เลย
http://www.one2car.com/CarInfor/cardetails.aspx?caridx=L11090178&row=2
และ
http://www.one2car.com/CarInfor/cardetails.aspx?caridx=L11090176&row=2
บางคนยังไม่รู้เลยว่าBMWจะเปลี่ยนโฉม เค้าก้อมีขายกันแล้ว เร็วจริงๆ
อีกทั้งยังเป็นตัวfull optionด้วยอ่ะ (คิดว่านะ)

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ไปกับ BMW F10

หลังจากที่BMW ได้ประกาศหยุดสายการผลิตซีรี่ย์5 โฉมปัจจุบัน (E60)
ไปเมื่อ 5ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ข่าวคราวของเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะเข้ามา
ทำตลาดแทนก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันที แต่กระทั่งตอนนี้ยังไม่ทราบแน่นอน
ว่าจะเปิดตัวคันจริงเมื่อไหร่ มีเพียงภาพของF10 ที่ทางBMW ปล่อยมา
ให้ชมกันก่อนเปิดตัวปี2010-2011

สำหรับ F10นั้น ถือว่าเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของBMW หลังจากที่ให้พี่ใหญ่
ซีรี่ย์7 เบิกทางไปแล้ว กระแสตอบรับดีมาก ส่งผลให้BMW มั่นใจที่จะดัน
F10 ให้มาเร็วกว่ากำหนด
.
วันนี้จะมาเปรียบเทียบของเก่า กับของใหม่ให้ได้ชมกัน
.
:: ด้านหน้า ::




ออกแบบให้ใกล้เคียงกับซีรี่ย์7 จมูกโตซะ ไฟหน้าแบบหางตาตก
ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนโฉมของBMW เราจะพบว่า มันจะดูหยิ่งผยอง
ขึ้นไปเรื่อยๆ แต่คราวนี้ ผมกลับรู้สึกเองลึกๆว่ามัน แหย และถ่อมตัว
ดูสุภาพเรียบร้อยอย่างเหลือเชื่อ ในบางมุม เช่นมุมเอียง(บนขวา)
พบว่าละม้ายคล้ายคลึงกับน้องเล็กซีรี่ย์3 ผมดูภาพนี้ยังงงๆเลยว่านี่เรา
เอารูปมาผิดป่ะวะเนี่ย -*-
ที่แน่ๆ หน้ามันไม่เหมือนกับ 5GT ที่เคยลงไปก่อนหน้านี้ ที่นี่
http://puppy-e34.blogspot.com/2009/09/bmw-5series-gran-turismo.html
ปล. ภาพF10ซีดานในบทความเก่า ไม่ใช่ตัวจริงนะ เค้าปล่อยหลอกมา
.
:: ด้านข้าง ::

BMW กล่าวว่าF10 เป็นซีรี่ย์5 ที่มีระยะฐานล้อยาวที่สุดที่เคยมีมา ก็แน่ละ
ลองดูโอเวอร์แฮงค์หน้าสิครับ สั้นมากขึ้น (ถ้ามองไม่ออกคลิ๊กที่รูปนะ)
ทำให้ระยะจากล้อหน้าถึงประตูหน้ามันยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็เลยไม่มั่นใจ
ว่าพื้นที่ภายในจะกว้างขวางขึ้นซักเท่าไหร่กัน
ส่วนเส้นสายข้างลำตัวที่เด่นชัด คมซะ ชวนให้นึกถึงE34 สุดที่รักของผม
เพราะว่าตั้งแต่E39มา เส้นข้างลำตัวก็ไม่ชัดขนาดนี้ จนถึงE60 เส้นนี่แทบ
จะหายไปเลย มนกลมเชียว(ดังรูป)
ผลจากเส้นนี้เอง ทำให้ดูรถมันลู่ลมมากกว่าของเดิม อยากรู้จังว่าค่าCd
ของคันนี้จะอยู่ที่เท่าไหร่
.
:: ด้ายท้าย ::

ความเปลี่ยนแปลงของทายรถนั้น ถูกใจผมมากเลย ไฟท้ายรูปตัวL กลับมา
ให้ได้เห็นอีกครั้ง ด้ายท้ายที่เป็นทรงสปอร์ตที่สมบูรณ์แบบที่สุด(เว่อร์ไปป่ะ)
ปลายท่อไอเสียจะเป็นอย่างในรูปหรือไม่นั่น ผมไม่ชัวร์
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังแอบคล้ายซีรี่ย์3 ไมเนอร์อยู่ไม่น้อย
.
:: ภายใน ::

BMW พยายามทำให้ภายในดูมีรสนิยมมากขึ้น โดยการใช้สีเข้ามาช่วย
หลายคนบอกว่าคล้ายกับซีรี่ย์7 แต่ผมว่ามันคล้ายกับZ4 อยู่ไม่น้อยเลย
คอนโซลกลางที่ดูเหมือนว่ามันจะใหญ่ขึ้น (หรือว่าอัตราส่วนภาพมันเพี้ยนหว่า)
สรุปแล้ว การออกแบบไม่ได้ฉีกแนวไปเท่าไหร่นัก เรียกว่าเซฟตัวเองอยู่
พอสมควร

ที่นั่ง ออกแบบให้โอบกระชับมากขึ้น เรียกได้ว่าให้ความสำคัญกับที่นั่งมากขึ้น
แฟนBMWคงรู้ๆกันดีว่า ปกติBMWไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันเท่าไรนัก
ที่นั่งของผู้โดยสารด้านหลัง ตามภาพมีจอไว้ให้ความบันเทิงอีกด้วย แต่คิด
ว่าคงจะอยู่ในรุ่นสูงๆ (จากรูปมันต่อเนตได้ด้วยอ่ะ)
.
:: ด้านเครื่องยนต์ ::
พละกำลังของ 5-Series รุ่นใหม่มีให้เลือกถึง 5 เครื่อง ทุกเครื่องจับคู่กับ
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะที่ช่วยเพิ่มอัตราเร่งและลดใช้เชื้อเพลิง และผ่านค่า
มาตรฐานไอเสีย EURO5 เรียบร้อยแล้ว ได้แก่
.
BMW 550i เครื่องยนต์เบนซิน V8
ความจุกระบอกสูบ 4,395 ซีซี เทอร์โบคู่และหัวฉีดแรงดันสูง
ให้พละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า ที่รอบระหว่าง 5,500 – 6,400 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 61 กิโลกรัมเมตร ที่รอบระหว่าง 1,750 – 4,500 รอบต่อนาที
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 5 วินาที
.
BMW 535i เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง
ความจุกระบอกสูบ 2,979 ซีซี เทอร์โบคู่ หัวฉีดแรงดันสูง และValvetronic
ให้กำลัง 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 40.8 กิโลกรัมเมตร ที่รอบระหว่าง 1,200 – 5,000 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.1 วินาที
.
BMW 528i เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง
ความจุกระบอกสูบ 2,996 ซีซี พร้อมระบบ bi-VANOS และ Valvetronic
ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 31 กิโลกรัมเมตร ที่รอบระหว่าง 2,600 – 5 ,000 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.7 วินาที
.
BMW 523i เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง
ความจุกระบอกสูบ 2,996 ซีซี พร้อมระบบ bi-VANOS และ Valvetronic
ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 27.7 กิโลกรัมเมตรที่รอบระหว่าง 1,500 – 4,250 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.9 วินาที
.
BMW 530d เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง อลูมิเนียมแครงก์เคส
ความจุกระบอกสูบ 2,993 ซีซี พร้อมเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน VNG และ
หัวฉีดคอมมอนเรลจากเพียซโซแรงดันสูงสุด 1,800 บาร์
ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 55 กิโลกรัมเมตรที่ 1,750 – 3,000 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.3 วินาที
.
BMW 520d เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง อลูมิเนียมแครงก์เคส
ความจุกระบอกสูบ 1,995 ซีซี เทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน VNG และ
หัวฉีดคอมมอนเรลจากเพียซโซ แรงดันสูงสุด 1,800 บาร์
ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 38.7 กิโลกรัมเมตรที่รอบระหว่าง 1,900 – 2,750 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.1 วินาที
(ขอบคุณข้อมูลจาก headlight mag)
.
น่าแปลกอยู่ไม่น้อยที่คราวนี้ไม่มีเครื่อง 2.5ลิตร ในรายการเครื่องยนต์เลย

สำหรับเครื่องยนต์ที่คิดว่ามาไทยแน่ๆคือ 520d เพราะกระแสตอบรับใน
ปัจจุบันถือว่าดีมากทีเดียว
ส่วนรุ่นที่คิดว่าไม่มาแน่ๆคงจะเป็น 535i และ 550i เพราะมันใหญ่ไป
นอกจากนี้ในความเห็นส่วนตัวแล้ว เวอร์ชั่นของไทยอาจจะมีเครื่อง 2.5
ให้ได้เห็นกัน เพราะหลีกหนีภาษีที่แพงซาดิสก์ของเรานั่นเอง
.

สรุปแล้ว ของใหม่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่ารูปร่างยังดูขัดตา
ไม่สง่าอย่างหลายรุ่นที่ผ่านมา แต่เมื่อมองในอีกแง่หนึ่ง การออกแบบเช่นนี้
จะเป็นการเปิดตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆได้อยู่มากโขทีเดียว
.
แต่อย่างเพิ่งมันใจอะไรนัก เพราะคันจริงๆเป็นๆยังไม่เคยได้เห็นกันเลย
อาจจะมีการปรับเปลี่ยน ในรายละเอียดอีกเล็กน้อย
ก็กว่าจะปี2011 มันอีกตั้งนานนี่นา.......................



:: ซีรี่ย์5 ทุกๆเจเนอเรชั่นที่ผ่านมา::



จากซ้ายไปขวา
E12 E28 E34 E39 E60 และ F10
ขอบคุณภาพจาก Autoblog Autospinn Headlightmag
.
ปล. วันนี้ไปเปิดดู One2car เจอF10 GT ขายอยู่สามคันแล้ว
สองคันเป็น530d อีกคันเป็น535 ที่น่าสนใจคือเป็นฟูลออปชั่นด้วย
ขายแปดล้านเอง ! ! !
เกรย์ไทยมีขายแล้วอ่ะ ขนาดยังไม่ค่อยมีข่าวเท่าไหร่เลย
แบบนี้สุดยอดดดดดด สุโค้ย ! ! !