วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

:: Engine of the Year 2009 ::


ประกาศผลแล้ว รางวัลที่ค่ายยานยนต์ทั้งโลกรอคอยสำหรับปีนี้โดยมี
คณะกรรมการ 65 ท่านจาก 32 ประเทศ ในการตัดสินคณะกรรมการจะ
ต้องขับรถทุกรุ่นที่แต่ละยี่ห้อส่งเข้าประกวด (อยากไปร่วมตัดสินจัง>_<)
ในปีนี้จะเน้นการตัดสินไปที่กำลังของเครื่องยนต์ การปล่อยมลพิษ และ
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ว่าใครคุ้มค่าและดีที่สุด


:::เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า1ลิตรยอดเยี่ยมแห่งปี:::
Toyota 1-litre three-cylinder (ติดตั้งใน Toyota Aygo,Peugeot 107)

รางวัลนี้ถือว่าเป็นรางวัลในรุ่นเล็กที่สุด กรรมการหลายคนชมว่าเป็นเครื่อง
ที่มีเรี่ยวแรงดีที่สุดในการขับขี่ในเมือง อีกทั้งเครื่องยนต์น้ำหนักมีเบา
ส่งผลให้อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่26.35กม/ลิตร
สำหรับที่สองของระดับนี้มาจาก Smart Diesel 799cc (Smart Fortwo)


:::เครื่องยนต์ขนาด1-1.4ลิตรยอดเยี่ยมแห่งปี:::
Volkswagen 1.4-litre TSI Twincharger(ติดตั้งในGolf,Scirocco, Eos)

แม้จะมีความจุกระบอกสูบที่เล็กแต่กำลังที่ได้มานั้นมากเท่ากับขนาด2.0
โดยใช้ใช้เทอร์โบชาร์จและซูเปอร์ชาร์จช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบ
นอกจากจะแรงแล้ว อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่19.34กม/ลิตร
สำหรับที่สองของระดับนี้ก็เป็นของVolkเช่นเดียวกัน(1.4-litre TSI Turbo )


:::เครื่องยนต์ขนาด 1.4 – 1.8 ลิตรประจำปี:::
BMW-PSA 1.6-litre Turbo (ติดตั้งใน Mini Cooper S, Peugeot 207)

เครื่องยนต์บล็อกนี่เกิดจากการร่วมมือกันของBMW และเปอร์โยต์เพื่อลด
ต้นทุนในการผลิตเครื่องยนต์ และทดแทนเครื่องรุ่นเก่าที่สู้คนอื่นไม่ค่อยได้แล้ว
คณะกรรมการส่วนใหญ่ลงมติว่าเครื่องนี้สร้างสมดุลการขับขี่ความเร็วสูงได้ดีมาก
และยังประหยัดน้ำมันอีกต่างหาก (17.38 กิโลเมตร/ลิตร)
ที่น่าแปลกใจที่สุดคือเครื่องยนต์นี้ชนะคู่แข่งอย่างเครื่องไฮบริดของโตโยต้า
(Toyota Hybrid 1.8-litre)ที่วางในพรีอุสใหม่ไปอย่างขาดลอย


:::เครื่องยนต์ขนาด 2 – 2.5 ลิตรแห่งปี:::
Mercedes-Benz Diesel 2.1-litre (ติดตั้งใน BlueEfficiency E-Class)

จุดเด่นที่ได้รางวัลนี้คือเทอร์โบชาร์จแบบ 2 สเตจที่เล็กลงแต่กำลังอัดสูง
ด้วยรอบหมุนอากาศที่ 215,000 รอบต่อนาทีพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาด
ใหญ่กว่าเดิม ให้แรงม้าและสมรรถดีกว่า ประหยัดและมลพิษก็ต่ำ
ที่สองของความจุนี้คือ Audi 2.5-litre five-cylinder Turbo (Audi TT RS)


:::เครื่องยนต์ขนาด2.5 -3 ลิตรยอดเยี่ยมประจำปี:::
BMW 3-litre DI Twin Turbo (135, 335, X6, Z4, 730)

เครื่องยนต์บล๊อกนี้เป็น 6 สูบแถวเรียง ติดตั้งเทอร์โบคู่ฝั่งละ 3 สูบ
ทำให้รีดกำลังตีนต้นได้ดี ความเร็วปลายก็ทำได้ดีมากด้วยกำลังสูงสุด 302 แรงม้า
ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร
อัตราสิ้นเปลืองเครื่องนี้ถ้าจับคู่กับเกียร์autoคลัตช์คู่ 7สปีดจะอยู่ที่13.34 กม/ลิตร
(นั่นคือกินเท่ากับรถขนาด1.5ลิตรบ้านเราเลย)
ที่สองของตารางในความจุนี้คือ BMW Diesel 3-litre Twin Turbo
(สังเกตุดูว่าBMWจะเก่งมากกับเครื่องหกสูบแถวเรียงแบบนี้)



:::เครื่องยนต์3-4 ลิตรประจำปี:::
BMW 4-litre V8 (ติดตั้งในรุ่น M3)

เครื่องยนต์บล๊อกนี้ทิ้งขาดคู่แข่งมากกว่า 150 คะแนน จุดเด่นของมันมากมาย
เช่นน้ำหนักเบา รอบที่ลากได้สูงมากกกก พละกำลัง 414 แรงม้าของมันลากตัว
ของM3ไปได้อย่างว่องไว อีกทั้งการใช้เชื้อเพลิงยังสมเหตุสมผลด้วย
ที่สองของตารางคือ Porsche 3.8-litre flat six DI (911)



:::เครื่องยนต์มากกว่า 4 ลิตรประจำปี:::
Mercedes-AMG 6.2-litre (ติดตั้งใน CLK, S, ML)

AMG บริษัทลูกในเครือพัฒนาเครื่องยนต์ตัวนี้ให้มีสมรรถนะที่โดดเด่นมาก ๆ
แบบไม่มีใครเทียบ นอกจากนี้แล้วอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดูน่าสนใจทีเดียว
โดยในรุ่น C63 AMG ทำได้8.9 กิโลเมตร/ลิตร แค่นี้เอง
ที่สองในคลาสนี้จะเป็นอดีตเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมสี่ปีซ้อนนั่นก็คือ เครื่องวี10
จากค่ายใบพัดฟ้าขาว BMW 5-litre V10 (M5, M6) ในคราวนี้เสียแชมป์
ไปหมด ก็แน่ล่ะก็เครื่องมันเก่าหลายปีแล้วสู้ของใหม่ๆไม่ได้หรอก
แฟนๆเครื่องใหญ่ของBMWคงต้องรอดูกันต่อไปว่าเครื่องgenerationใหม่ๆ
จะเป็นอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น