วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Speed3 รถบ้านตัวแรงแห่งค่ายMazda

หลายคนคงจะรู้จัก...ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าทุกคนรู้จัก Mitsubishi Evolution
รถแข่งที่มีต้นกำเนิดจากรถจ่ายกับข้าว จับแลนเซอร์มาพัฒนาซะใหม่ แต่ใช้
พื้นฐานโครงสร้างเดิม ผลที่ออกมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มากกกกก
แต่คนก็มักจะเข้าใจว่ารถแข่งที่พัฒนาจากรถบ้านนั้นมีแค่Evo นั่นไม่จริงเลย
แทบจะทุกค่ายมีรถแบบนี้ เพียงแต่อาจจะไม่ดังเท่า
.
ในวันนี้เราจะมาดูกันที่ตัวแรงของน้อง3กันดีกว่า ในโลกตะวันตกจะใช้ชื่อว่า
MazdaSpeed3 โดยที่ตัวนี้ พัฒนาบนพื้นฐานของMazda3 รุ่นปี2010 ที่
ยังไม่รู้ว่าจะเข้าไทยเมื่อไหร่เลยT__T
.
เอาหล่ะๆ เรามาดูกันไปทีละShot เลยดีกว่า
(จะวิจารณ์ไปเป็นข้อๆโดยทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเอง)
.

Shotที่1 ไฟหน้า
ไฟหน้าของรถก็เปรียบเหมือนกับดวงตาของคน การแสดงออกทางสายตา
ก็เป็นเรื่องสำคัญ จะหวานหยาดเยิ้ม หรือจะดุดัน จริงใจหรือโกหก ก็ดูที่ตา
สำหรับดวงตาของน้อง3 นั้นดูจะดุดัน เข้มแข็ง ราวกับดวงตาของเหยี่ยวที่
คอยจ้องหาเหยื่อ มีความทรงพลัง (ซึ่งในปัจจุบันหลายค่ายก็นิยมเลือกไฟ
หน้าตามนิยามนี้ )
แต่......เมื่อเราเข้าสู่ Shotที่2 จะพบว่า
.
Shotที่ 2 ด้านหน้ารถ
ด้านหน้าก็เปรียบได้กับหน้าคน เป็นสิ่งแรกที่จะได้เห็นเมื่อพบหน้ากัน
และจากที่ต่อเนื่องจากตอนที่1 ไฟหน้าที่ดุดัน ทรงพลัง แต่..............
.
ไหงหน้ามันแป๊ะยิ้มอย่างงี้อ่ะ
มาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม(แย้มมาก) ปากเบ้อเริ่มเลย เค้าคงคิดว่าจะทำ
ให้รถดูใจดี มีเมตตา นั่นไม่ช่วยเลย
เพราะการที่ไฟหน่าดุดัน แต่กลับยิ้มกว้างแบบนี้ ราวกับตัวร้ายในละคร
ที่ได้ในสิ่งที่สมปราถนาแล้ว และน่าจะเป็นตัวร้ายที่ไม่ค่อยแสดงออก
ถึงความร้าย เรียกได้ว่า ร้ายลึก
ในละครความร้ายที่ซ่อนไว้ย่อมเป็นสิ่งไม่ดี เป็นแง่ลบ แต่สำหรับร้าย
ในความหมายนี้คือ ความร้ายที่ซ่อนอยู่ในฝากระโปรงนั่นเอง
.



Shotที่ 3 ด้านข้าง
หากลองมองแล้วจะพบว่า มันแทบไม่มีอะไรต่างไปจากรุ่นเดิมเลย
ทางMazda ยังคงใช้ดีไซน์ด้านข้างแบบเดิม ซึ่งนั่น .....................
เป็นความคิดที่ดีแล้ว เพราะดีไซน์โครงสร้างด้านข้างนับว่าน่าดูมาก
เมื่อเทียบกับรถในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่ทราบว่าใช้โครงสร้างเดิม
เลยหรือเปล่าเพราะ ไม่ทราบความเอียงของเสาA (คิดว่าเสาAของ
ตัวใหม่ดูจะลาดเอียงกว่า) สรุปว่าด้านข้างลงตัวดีมาก
.
Shotที่ 4 ท้ายรถ
การที่คนอื่นเห็นท้ายรถของเรา มันแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของเรา
(ถ้าไม่อยู่ข้างหน้าเขา แล้วเขาจะเห็นท้ายเรามั้ย?) น้อง3ตัวนี้ เปลี่ยนชุด
โคมด้านท้ายใหม่หมด เหลาให้ดูเรียวขึ้น ท่อไอเสียออกสองด้าน
ถือว่าสวยมาก แต่ถ้าจะดีกว่านี้คงต้องปรับสีของไปท้ายไม่ให้มันดูหลอก
ตาขนาดนี้ เพราะมองแล้วเหมือนกับไปซื้อไฟปลอมมาใส่เลยอ่ะ
โคมสวยแต่สีหลอนเอามากๆ
.


Shotที่ 5 ล้อและยาง
ไม่มีอะไรมากไปกว่าคำว่าเหมาะสม ล้ออัลลอยด์สิบก้าน ขนาด18นิ้ว
มาพร้อมกับยางดันล็อป ขนาด225 ผิวสัมผัสพื้นมาก ส่งกำลังลงสู่พื้น
ถนนได้มาก แต่ก็กินน้ำมันมากเพิ่มขึ้นด้วย-*-
.


Shotที่ 6 เครื่องยนต์
หัวใจสำคัญที่จะตัดสินความแรงของรถ คือ เครื่องยนต์ และในน้อง3 ตัวนี้
เลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน สี่สูบแถวเรียง วางขวางด้านหน้ารถ
ความจุ 2.3ลิตร เทอร์โบ เค้นกำลังออกมาได้263แรงม้าที่ 5,500รอบ/นาที
ให้แรงบิดสูงสุด380นิวตัน-เมตร ที่3,000รอบ เจี๊ยก!!! หยั่งกับกระบะบ้าพลัง
มาที่รอบไม่สูงด้วย ดูแล้วคงไม่ต้องโหมให้เหนื่อย น่าจะปี๊ดป๊าดไม่น้อยเลย
อีกทั้งยังจับคู่กับเกียร์ธรรมดา6สปีด สับกันมันส์เลย
.
แต่ว่า แรงม้าน้อยจังเลยอ่ะ ไม่อยากจะเปรียบกับคนอื่นหรอกนะ ทำให้
อดคิดไม่ได้ ว่าคนอื่นเค้า2ลิตร เรียกม้าได้ตั้ง 280ตัว (หรือมากกว่านั้น)
แต่ใย Mazda ทำได้แค่เนี้ยยย
.
เราเชื่อว่าเค้าทำได้ แต่อาจมีเหตุผลบางอย่าง จึงไม่ทำ
.
.

Shotที่ 7 การตกแต่งภายใน
ภายในรถถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ตอบสนองความพอใจของลูกค้ามากที่สุด
เพราะมันเป็นส่วนที่ผู้ซื้อสัมผัสได้ เป็นรูปธรรม ห้องโดยสารที่ดีนั้นมันไม่
จำเป็นต้องกว้างขวางเสมอไป ขอให้มุมมองโปร่งสบายเป็นพอ จะช่วยลด
ความคับแคบไปได้ การใช้โทนสีสว่างก็เป็นส่วนที่ช่วยความโปร่งได้มาก
.
แต่กับน้อง3 เลือกใช้สีดำ ซึ่งส่งผลให้ดูคับแคบไปในทันที แล้วจะให้ทำไงล่ะ
ในเมื่อสีดำเป็นสีเดียวที่ส่งผลให้มีอารมณ์สปอร์ตได้มากสุด นอกจากนี้แล้ว
สีดำยังเปื้อนยากอีกด้วย -*-
ไมล์รถทรงสองห่วง แลดูสปอร์ต แต่หลอกตาชิ ในภาพจะเป็น
หน่วยไมล์ ไม่ใช่หน่วยกิโลเมตร (กม.จะอยู่วงในด้านล่าง)
จอแสดงผล พร้อมระบบนำทาง มองแบบนี้ก็ชัดเจนดีหรอก แต่ขอให้ลอง
เลื่อนเม้าส์กับไปดูภาพก่อนๆ แล้วพิจารณา
.
ถ้ายังนึกไม่ออก ก็จะบอกให้ว่ามันเล็กมาก
มากกกก ..... จะมองทีคงต้องเพ่งอยู่นาน รถได้ชนตายก่อนพอดีอ่ะ
น่าจะยกจอแสดงผลลงมาแทนชุดเครื่องเครื่องเสียงด้านล่าง
แม้จะต่ำไปนิด แต่จะได้จอแสดงผลที่ใหญ่กว่า น่าจะมองเห็นได้ง่ายกว่า

ชุดควบคุมเครื่องเสียงและระบบแอร์ ใช้งานไม่ยาก ไม่ซับซ้อน และก็ยัง
ดูทันสมัย แต่ใครจะว่ายังไงผมไม่รู้นะ แต่ว่าค่ายรถเดี๋ยวนี้ชอบทำเครื่อง
เสียงแบบฝัง(บิวด์อิน) แน่นอนว่ามันดูไฮโซหรูหรา แต่ไม่เคยมีค่ายไหน
ใส่เครื่องเล่นดีๆมาให้เลย ครั้นจะเอาไปเปลี่ยนก็ยากเย็น ต้องเจาะนู่นนี่
ชวนให้นึกถึงสมัยก่อนที่จะเป็นช่องให้ ทั้งแบบ1หรือ2din เปลี่ยนได้ง่ายมาก
ใคร่ขอให้ค่ายรถต่างๆ ทบทวนเรื่องนี้ใหม่เหอะ นะ...
(ไม่ได้ว่าMazdaนะ ผมว่าทุกค่ายแหละ)

Shotสุดท้าย เบาะนั่ง
วัสดุที่ใช้บุ แปลกแหวกแนวดีมาก ช๊อบชอบ เรียกว่าไงดีอ่ะ สีเหลือบๆ
แจ่มมาก เบาะหน้าดูท่าจะโอบกระชับดี เข้ากับบุคลิกของรถและ ยังช่วย
เซฟหลังเราได้ด้วย แต่เบาะหลังของผู้โดยสารนี่สิ ท่าจะแข็งน่าดู
ดีไซน์เบาะหน้าให้คแนนเกือบเต็ม แต่ดีไซน์เบาะหลังผมให้ติดลบเลย
แม้ว่าจะใช้วัสดุหุ้มดูดี แต่นั่นไม่ช่วยอะไรเลย
เบาะหลังแบนเรียบ ไม่มีมุมโอบรับหลัง แล้วก็ดูเหมือนย้อยกลับไปสมัย
323รุ่นปี84 อะไรหยั่งงั้นเลย
.

แร้งงงงงงง...(น้อยไปนิด) กับรูปลักษณ์ในบางมุมที่ยังขัดแย้งในตัวเอง
เข้าใจว่าทางมาสด้าคงไม่อยากให้ MazdaSpeed3 ออกมาเป็นเหมือน
รถแข่งมากเกินไป คงอยากแค่ให้มีกลิ่นอายนิดๆเท่านั้น ผลที่ได้ออกมา
เลยเป็นแบบนี้ ครึ่งๆกลางๆดีแท้
แต่ที่แน่ๆคือมันสวยกว่ารุ่นธรรมดาเยอะเลยอ่ะ.......................
.
สรุป สิ่งที่อยากให้ไม่เกิดขึ้นในMazda3 ตัวminor
อย่างแรกคือ ไฟท้ายแบบตัวนี้เหมือนกับซื้อของแต่งปลอมมาติดรถ
ยังไงก็ไม่รู้ ควรจะรีบเปลี่ยนโดยด่วน!!
อย่างที่สอง คือ เบาะหลัง ทรงสไตล์โบราณ ไม่ไหวจริงๆเล้ย
.
นอกนั้นอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะสมกับการใช้งานทุกอย่าง
.
รูปภาพจาก autoblog